วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

   
เบียร์สดไฮเนเก้น
  ปี 1863 กำเนิดของเบียร์ไฮเนเก้น เริ่มขึ้นเมื่อ 16 ธันวาคม ค.ศ. 1863 เมื่อนาย Gerard Adriaan Heineken ได้ซื้อโรงเบียร์ Hoolberg ใน Amsterdam เพื่อผลิตเบียร์คุณภาพที่ดีที่สุดพร้อมกับค้นคว้า และวิจัยยอดเยี่ยมมาจนถึงทุกวันนี้ปี 1883-1889 ดวงดาวการันตีเกียรติยศแห่งคุณภาพ เพราะคุณค่าที่ไม่เคยเปลี่ยนและรสชาติ ยอดเยี่ยมทำให้ไฮเนเก้นได้รับรางวัลมากมาย อาชิเช่น Diplome D’ Honneur Amsterdam ในปี ค.ศ. 1883 จากถิ่นกำเนิดของตนเองและรางวัลชนะเลิศ Grand Prix Paris ในปี ค.ศ. 1889 ที่ประเทศฝรั่งเศปี 1933 ไฮเนเก้นเป็นเบียร์แห่งแรกของโลกที่ส่งเบียร์ไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาหลังจากการยกเลิกห้ามในปี ค.ศ. 1933 เพียง 3 วัน นับจากวันนั้นไฮเนเก้นจึงเป็นเบียร์นำเข้าที่มียอดขายสูงสุด และเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของไฮเนเก้นในสหรัฐอเมริกาจนถึงวันนี้ปี 1963 ไฮเนเก้นร่วมทุนกับบริษัท Fraser&Neave ตั้งบริษัท Asia Pacific Breweries รับผิดชอบด้านการขยายตลาดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิคให้กับไฮเนเก้นHeineken PACO สุดยอดผลงาน Best Packaging Design ที่นอกจากจะทำให้ Ora-ito Morabito นักออกแบบผลิตภัณฑ์เชื้อสายญี่ปุ่นมีชื่อเสียงระดับโลกแล้ว ไฮเนเก้นยังทำให้โลกได้ยอมรับถึง แนวความคิดของการดื่มด่ำอย่างมีสไตล์แบบไฮเนเก้นประเทศไทยเบียร์ได้เริ่มเป็นที่นิยมหลังจากเริ่มต้นศตวรรษใหม่ บริษัทเบียร์สดไฮเนเก้สแห่งแรกของประเทศก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2477 โดยผลิตเบียร์ขายเฉพาะภายในประเทศ ส่วนเบียร์นำเข้าหลายหลากชนิด ดังเช่นจากประเทศญี่ปุ่น ประเทศเดนมาร์ก และประเทศเยอรมนี จะมีวางขายในร้านขายเบียร์หรือ “Beer Halls” ในภัตตาคารและในโรงแรมซึ่งภายในระยะเวลาอีกไม่นานเบียร์ไฮเนเก้นก็เริ่มปรากฏสู่ตลาดประเทศไทยด้วยรสชาติที่กลมกล่อมไม่ซ้ำใคร ซึ่งไฮเนเก้นยังคงใช้ตำรับดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแม้กระทั้งกระบวนการหมักบ่มที่ยาวนานจึงทำให้เบียร์ไฮเนเก้นมีรสชาตินุ่ม สดชื่นจึงทำให้นักดื่มทั่วโลกมั่นใจในคุณภาพและรสชาติของเบียร์ไฮเนเก้น และกลายเป็นขวัญใจของนักดื่มเบียร์ชาวไทยในที่สุดสำหรับเบียร์ไฮเนเก้น เค้าแบ่งระดับเบียร์ไว้สามระดับ ได้แก่ 1. ระดับ Premium เป็นเบียร์ไฮนาเก้น ใช้เวลาหมักและบ่มยาวนานถึง 28 วัน  2. ระดับ Standard เป็นเบียร์ไทเกอร์ ใช้เวลาหมักและบ่มยาวนานถึง 18 วัน  3. ระดับEconomy เป็นเบียร์เชียร์ ใช้เวลาหมักและบ่มยาวนานถึง 11 วัน และการผลิตแต่ละครั้งจะต้องส่งตัวอย่างเบียร์ไปตรวจที่ประเทศฮอลแลนด์กันเลยทีเดียว โดยใช้เวลา 3 วัน เพื่อตรวจสอบ สี กลิ่น รสชาติ ให้ได้มาตรฐานจากไฮเนเก้นแท้ๆ ล่ะ และเมื่อได้รับผลแล้วสินค้าในล็อตนั้นก็ถูกจัดจำหน่ายไปยังผู้บริโภคอย่างเราๆ นี่ล่ะ เห็นไหมล่ะของเค้าดีจริงๆสำหรับส่วนประกอบในการทำเบียร์ไฮนาเก้นนั้นประกอบด้วย1. ข้าวมอลท์บาร์เล่ย์ 100%2. ดอกฮ็อปบริสุทธิ์3. เอ-ยีสต์สูตรเฉพาะ4. น้ำบาดาล (แหล่งน้ำที่ตั้งของโรงงานผลิตเบียร์)





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น